การออกไปเที่ยวบางทีมันคือการพักผ่อนแบบนอนโง่ๆ ไม่คิดอะไร แต่ก็ไม่ทำให้เรารู้สึกว่า “นี่ชั้นมาทำอะไร เสียเวลา!” ทริปแบบนี้คือย้ายที่นอน ออกไปทำอะไรตามใจตัวเอง นอนตื่นสายๆ บินดี อยู่ดี นั่งเขียนไดอารี่ ให้เวลากับตัวเองทั้งวัน โดยไม่คิดอะไรและผล็อยหลับไป! นี่คือชีวิตในฝันของเราเหมือนกันเวลาออกไปพักผ่อน บอกเลยว่าถ้ากำลังหารีวิวเที่ยวทะเลแบบลุยๆ ดำน้ำแปดเกาะในหนึ่งวัน ปีนเขาไปดูวิววันละสามลูก ข้ามมื้อเที่ยงรอไปกินมื้อเย็นทีเดียว บอกเลยว่าไม่มีในรีวิวนี้ เพราะเรากำลังอยากเมาท์เรื่องทริปเกาะเต่า – พะงัน ล่าสุดที่พึ่งเอาเวลาไปทิ้งแต่ไม่รู้สึกเสียดายซักนิดให้ฟัง ?
*** วีดิโอและรีวิวนี้นำเสนอ Feature ต่างๆ ของ Samsung GalaxyNote8 และภายในเครื่องเท่านั้น
ภาพนิ่งบางส่วนที่ไม่ได้ขึ้น Credit ใต้ภาพว่า ‘ถ่ายด้วย GalaxyNote8’
และภาพเคลื่อนไหวอื่นๆ ภายในวีดิโอ ถ่ายทำโดยใช้กล้องอื่น***
Fly Boutique Feel Unique
เราออกเดินทางไปกับสายการบินบางกอก แอร์เวย์ส เพราะเป็นสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพสู่สมุย บินตรงแค่ 50 นาทีแถมยังมีเที่ยวบินถี่มากๆ ปุปปัปอยากบินมาเที่ยวสมุยก็สามารถซื้อตั๋วมาเที่ยวได้ง่ายๆ แถมยังข้ามไปเกาะเต่า และเกาะพะงันได้สะดวกกว่า นั่งเรือต่อไปไม่นานเพราะจากสมุยไปเกาะเต่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ส่วนจากเกาะสมุยไปเกาะพะงันแค่ 30 นาทีเท่านั้น นั่งเมาท์ๆ กับเพื่อนแปปเดียว เอ้า! ถึงแล้วอะ ยังไม่ทันเมาเรือเลย
แถมบางกอก แอร์เวย์สยังเป็นสายการบินที่บริการอาหารร้อนให้ทุกคนในทุกๆ เที่ยวบินอีกด้วย
เราออกเดินทางจากกรุงเทพไฟลท์เช้าๆ ถึงสมุยปุ๊ปก็รีบข้ามเรือไปเกาะเต่าต่อทันที เพราะจะได้มีเวลาวันแรกในการเที่ยวทั้งวัน แถมช่วงนี้เป็นหน้าไฮ ซีซั่นของทะลฝั่งอ่าวไทย (ปลายกรกฏาคม – ต้นเดือนกันยายน) เลยไม่อยากพลาดแดดแรงๆ ให้เดินเที่ยวถ่ายรูปเล่นได้ทั้งวันแบบแกรนด์ๆ บอกแล้วว่าอย่าคาดหวังความลุยและบุกป่าฝ่าฝันจากรีวิวนี้ เพราะมันจะมีแค่ เพื่อนฝูง / โน้ตแปด / เกลียวคลื่น และลมทะเลเท่านั้นจริงๆ!
เราพักกันที่ The Tarna Align Resort เป็นโรงแรมใหม่โรงแรมนึงที่เปิดได้ไม่กี่ปี อยู่ใกล้ๆ กับหาดทรายรี แม้ว่าจะไม่ติดหาด แต่ก็มีรถรับ-ส่งไปแฮงค์เอาท์ที่หาดกันได้ง่ายๆ เสมอ ที่เราเลือกพักโรงแรมนี้เพราะมีสระว่ายน้ำกว้าง ห้องใหญ่ไม่แพง แถมเป็นห้องแบบ Pool Access เปิดประตูมาปุ๊ป กระโดดลงน้ำได้ทันที หรือถ้าอยากเรียนดำน้ำ Scuba Driving ก็มีสอน
และทริปนี้เรายังพกเจ้า Galaxy Note 8 มาด้วยเหมือนเดิมเพราะมันเป็นเพื่อนอีกคนนึงที่จะคอยเพิ่มสีสันตลอดทริปให้เรา เจออะไรก็ขีดๆ เขียนๆ ลงไป เห็นอะไรสวยๆ ก็ใช้เจ้าโน้ตแปดนี่แหละขึ้นมาช่วย Snap ได้เร็วๆ แฮปปี้แบบไม่ยั้งทั้งวัน
ถึงโรงแรมปุ๊ปเอากระเป๋าวาง แล้วทิ้งตัวลงเตียงงีบซักพักนึงก็ออกมาเริ่มเที่ยวกันต่อ เราแวะไป จุดชมวิวจอห์นสุวรรณ เป็นที่แรก นี่เป็นวิวที่จะเห็นเกาะเต่าทั้งด้านซ้ายและด้านขวาจากมุมสูง ยิ่งถ้ามาช่วงบ่ายแดดคล้อยเธอจะเห็นน้ำไล่สีเป็นมรกตเฉิดฉาย ถ่ายยังไงก็ไม่สวยเท่าเห็นด้วยตาตัวเองแล้วเมมไว้ในความทรงจำจริงๆ นะ ข้อเสียของที่นี่ใช่ว่าจะไม่มี! เพราะทางเดินเป็นทางขั้นต้องไต่หินขึ้นไป เพราะฉะนั้นอย่าใส่รองเท้าแตะขึ้นมาและระมัดระวังให้เยอะๆ ด้วยทางชัน แต่พอขึ้นมาแล้วนี่คือ The Heaven on Koh Tao ที่มานั่งเฉยๆ ชมวิวก็อิ่มแทนข้าวเย็นได้แล้ว
โน๊ตแปดนอกจากจะถ่ายรูปปกติก็สวยและสนุกแล้วมันยังมาพร้อมกับ Dual Camera หมายความว่าในกล้องมือถือตัวเดียวอย่างโน้ตแปดเนี่ย มีทั้งเลนส์ปกติ กับเลนส์ซูม (Telephoto) ทำให้ถ่ายครั้งเดียวได้มากถึง 2 ช็อตทั้งมุมแคบ/กว้าง เหมาะมากๆ สำหรับใครมีที่เพื่อนหรือแฟนที่ชอบให้ถ่ายเผื่อไว้เยอะๆ นี่เป็นอีกชอยส์ที่ดีให้พวกนางเอาไปเลือกได้สมใจ!
เดินลงจากจุดชมวิวจอห์นสุวรรณ ด้านล่างก็จะเป็นที่ให้ได้พักเหนื่อยอย่าง Freedom Beach ก็ Freedom สมชื่อจริงๆ เพราะมันชิวมาก สวยงาม มีทางเดินเลียบทะเล มีหาดสวยๆ เงียบสงบให้นั่งเล่นเพลินๆ หรือชอบท้าทายหน่อยโขดหินในทะเลก็อยู่ในระยะที่สามารถขึ้นไปนั่ง ปีนป่ายให้ได้รูปเก๋ๆ ได้ด้วยนะ
ตอนกลางคืนถ้าใครชอบ Night Life อย่าลืมไปดูควงกระบองไฟเท่ๆ ที่ร้านต่างๆ บนหาดทรายรี ตอนแรกเราก็งงแหละว่า เอ๊ะมันมีโชว์เป็นรอบๆ ปะวะ? สรุปคือมีทั้งคืนจ้ะ ร้านไหนก็ร้านนั้นโชว์กันไปเรื่อยๆ สนุกสนาน 5555
Nang Yuan and Scuba!
เช้าวันต่อมาเราออกไปเกาะยอดฮิตระดับโลกพร้อมกับดำดูโลกใต้กันที่หมู่เกาะนางยวน และรอบๆ เกาะเต่านั่นเอง แพลนของเราคือเหมาเรือประมงที่เอามาดัดแปลงใหม่จากรีสอร์ทเลย 1 ลำ ครึ่งวันราคาประมาณ 1 หมื่นบาทรวมอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์แล้วด้วยนะ ถ้าไปกันหลายๆ คนหน่อยก็ถือว่าคุ้มอยู่! เค้าจะพาเราไปรอบๆ เกาะเต่าให้ดำแบบ Snockle หรือถ้าใครจะ Scuba ก็สามารถติดต่อได้เช่นกัน
เราแพลนออกจากเกาะตั้งแต่เช้าประมาณ 8 โมงนิดๆ เพราะอะไรรู้มะ? เพราะเราอยากไปทุกๆ ที่ก่อนทัวร์ลง ได้มีเวลาถ่ายรูปสวยๆ และไม่ต้องรอคิวนานหรือติดคนอื่นเข้ามาในเฟรมเยอะแยะ ยอมตื่นเช้าหน่อยแต่ได้ภาพที่คุ้มค่ากันแน่นอน!
ลองถ่ายกันแบบ Dual Capture เล่นกันซักหน่อย! บอกเลยว่าไม่ว่าจะภาพซ้ายหรือภาพขวาก็ได้ความละเอียดที่คมชัด เหมือนถ่ายคนละรอบ แต่จริงๆ แล้วก็แชะเดียวเท่านั้นแหละ ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ เก็บภาพสวยๆ เพิ่มขึ้นได้อีกเพียบ เลนส์คู่ในโน๊ตแปดถูกใจเจ๊จริงๆ ค่ะ
เราแวะไปเที่ยวเกาะนางยวนกันเป็นที่แรก เช้าๆ แบบนี้เหมือนกรมอุทยานปิดเกาะให้พวกเรายังไงอย่างงั้น 5555555555 แต่จริงๆ ไม่ใช่นะคะ เราแค่ตื่นเช้าเหมือนนกได้กินหนอนก่อน ชั้นตื่นเช้าก็เลยได้เที่ยวก่อน เดินเลยจ้าทั้งหาดมีกันอยู่กลุ่มเดียว อ้อร้อกันให้เต็มที่ไปเลย
เกาะนางยวนเก็บค่าบำรุงเกาะแค่คนละ 30 บาท และมีกฎที่ดีมากๆ อยู่ข้อนึงคือห้ามนำพลาสติกขึ้นมาบนเกาะโดยเด็ดขาด ทำให้เกาะค่อนข้างสะอาดและมีระบบจัดการที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ทางขึ้นเกาะนางยวนก็ทำบันไดเป็นขั้นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับอันตรายน้อยที่สุดและเดินได้อย่างปลอดภัย
เสร็จแล้วเราก็ไปดำน้ำรอบหมู่เกาะเต่ากันต่อ เอาจริงๆ ว่าอากาศแถวนี้บางทีก็แปรปรวนเดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวก็ลมแรง ซักพักฝนปรอยๆ แล้วก็กลับมาแดดออกใหม่ ทำให้บางทีต้องดูทิศทางลมว่าสามารถลงเล่นน้ำได้รึป่าว เพื่อนเราบางคนจะดำ Scuba ลงไป บางคนก็ดำแบบ Snockle ไม่ว่าจะแบบไหนทุกคนขึ้นมาก็บอกว่าสวยงามทั้งนั้นค่า!
หรือถ้าใครชอบเล่นน้ำก็เชิญกระโดดได้เลย ไม่ก็พายคายัคสวยๆ รอบเรือก็ได้ นี่คือข้อดีอย่างนึงของการเหมาเรือออกมา ทำให้มีเวลาเป็นส่วนตัว และอยากจะหยุดจะลงตรงไหนก็สามารถบอกได้ทันทีภายในเวลาที่กำหนดครึ่งวัน
ช่วงบ่ายกลับจากออกเกาะเราไปนั่งชิวที่ร้าน Blue Heaven เป็นร้านอยู่บนเนินที่มีเจ้าแมวน้อยยั้วเยี้ยเดินขึ้นมาเล่นด้วยถึงบนโต๊ะ ที่นี่มีทั้ง Cocktails และ Mocktails รวมถึงอาหารมากมายเผื่อใครหิว หรือจะมานั่งดริ้งค์เบาๆ รับลมเย็นก็ได้ ร้านนี้มีถึงสองชั้นปีนขึ้นปีนลงได้เต็มที่
เป็น 2 วันในเกาะเต่าของเราที่ชิวและคุ้มค่ามาก เบื่อๆ ว่างๆ ก็กลับโรงแรมนั่งจิบค็อกเทลริมสระ กระโดดลงน้ำ ออกมา Dinner ตอนเย็นใช้ชีวิตแบบเสียเวลาแต่ไม่เสียเวลา มีความสุขที่สุด!
เป็น 2 วันในเกาะเต่าของเราที่ชิวและคุ้มค่ามาก เบื่อๆ ว่างๆ ก็กลับโรงแรมนั่งจิบค็อกเทลริมสระ กระโดดลงน้ำ ออกมา Dinner ตอนเย็นใช้ชีวิตแบบเสียเวลาแต่ไม่เสียเวลา มีความสุขที่สุด!
เราออกจากเกาะเต่าช่วงสายๆ นั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมงไม่เกินก็ข้ามมาเกาะพะงันได้ง่ายๆ เกาะพะงันที่ขึ้นชื่อเรื่อง Fullmoon ที่รอบนี้เราไม่ได้ตั้งใจจะมาปาร์ตี้ใดๆ เพราะอยากพักผ่อนและนอนเล่นกับเพื่อนและน้องหมาเท่านั้นจริงๆ 55
อ้อๆ! ลืมบอกไปอย่างนึงว่ามาเกาะเต่าต้องกินโรตีและเจ้าที่อรอ่ยที่สุดในโลก หลังจากลองมาหลายร้านคือร้านหน้าเซเว่นตรงท่าเรือพอดี อร่อยมาก โรตีกรอบเฉยๆ ก็เลิศ ใส่กล้วย ใส่นูเทลล่าก็ดีงาม ไปกินด้วยนะ หวานอร่อยจนยอมตัดขา
Koh Phangan is Calling!
ที่เกาะพะงันเราพักกันที่ Chantaramas Resort มากี่ครั้งๆ เราก็ต้องพักที่นี่เพราะความสะดวกสบายไม่ไกลจากท่าเรือ และมีหาดที่ค่อนข้างสงบและเป็นส่วนตัวพร้อมทรายละเอียดสามารถเดินลงไปเล่นน้ำได้ชิวๆ และที่รักที่นี่ที่สุดคือน้องหมา ที่นี่เลี้ยงน้องหมาบีเกิ้ลไว้ทั้งหมด 4 ตัว ทุกตัวทำหมันแล้วแสนซนมันจะคอยมาต้อนรับแขกทุกๆ วัน
พะงันรอบนี้เราขอแนะนำ 4 หาดสุดชิวตอนกลางวันที่ไม่มีใครมารบกวนและทำอันตรายพวกเธอได้!
หาดริ้นคือหาดแรกที่อยากแนะนำ ถ้าเคยมา Fullmoon ยังไงก็ต้องรู้จัดหาดนี้เพราะนี่คือหาดที่ใช้จัด Fullmoon นั่นเองแต่ตอนกลางวันนี่คนละเรื่อยเลย เงียบสงบ มีร้านอาหารรายทางค่อนข้างเยอะ เหมาะแก่การมาทานอาหารหรือเล่นกิจกรรมทางน้ำมากกว่าเพราะคนก็ไม่น้อย รีสอร์ทแถวนี้ก็ไม่น้อยพลุกพล่านพอตัวเลย
Malibu Beach เราชอบที่นี่ที่สุด เพราะหาดสวยมากกกก น้ำใส ทรายขาว ที่นี่รู้จักกันในชื่อมาลิบู มากกว่าอ่าวโฉลกหลำซะอีก แม้ว่าจะเป็นบังกะโลมีเจ้าของแต่เราสามารถเดินเข้ามาเล่นน้ำ หรือนอนอ่านหนังสือที่หาดนี้ได้ หาดนี้เงียบสงบ ร่มรื่น จะดีมากเลยถ้าเธอหยิบหนังสือติดตัวมานอนเล่น หรือลำโพงตัวเล็กๆ มาเปิดเพลงนอนเอกเขนกในหมู่มวลต้นปาล์ม หรือจะหยิบสิ่งต่างๆ ที่มีมาวางแผ่เป็นพร๊อพแล้วแคปชั่นรูปในไอจีว่า “My Vacayyyy”
ดีงามธรรมชาติล้านแปดเหมือนเป็นเจนเมียทาร์ซานขนาดนี้ก็ขอถ่ายด้วย Dual Capture กันหน่อยละกันค่ะ จะได้เลือกได้ทีเดียวเลยว่าจะเอามุมแคบหรือมุมกว้าง แต่พอถ่ายเสร็จก็รู้เลยว่าเป็นคนสวย จะแคบจะกว้าง สวยก็คือสวยจริงๆ ฮิ้ว!
อีกเกาะนึงคือ เกาะม้า ความชิวของที่นี่คือเธอสามารถเอาผ้าเช็ดตัวจากโรงแรมมาปูนั่งอาบแดดแบบดีงามได้ที่นี่เพราะร้านรวงต่างๆ ในเกาะม้านั้นมีเยอะ ไม่วุ่นวาย มีที่นั่งให้คนนั่ง และก็มีส่วนที่เธอสามารถสร้างอารมณ์ติสท์ๆ ปูนั่งเองได้ด้วย
ส่วนอีกทีนึงไม่แนะนำไม่ได้เลย! นั่นก็คือ เกาะราฮัม ร้านเล็กๆ ที่ยื่นออกไปในทะเลรับลมเย็นได้ทั้งวัน แถมอาหารอร่อยไม่แพง มีแปลให้นอนเล่นโน้ตแปด มีชิงช้าให้นั่ง มีทุกอย่างที่ร้านน่ารักๆ ควรจะมี แถมยังปลูกต้นไม้เยอะให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในหมู่บ้านชาวเลในหนังฮอลลีวู้ดเลยค่ะคุ๊ณณณณณณ
ถ้าไปตรงกับวันหยุดอย่าลืมไปเดินตลาดนัดเกาะพะงันด้วยนอกจากซีฟู๊ดสดๆ ราคาถูกที่บอกแม่ค้าให้ลวกจิ้มหรือยำได้เลยทันที ยังมีพวกขนมโบราณหรือขนมท้องถิ่นของเกาะพะงันอย่างขนมโคด้วยแหละ อร่อยมาก แป้งเหนียวๆ ด้านในเป็นใส้น้ำตาลอ้อย คลุกด้วยมะพร้าว กินจนไม่กลัวโดนตัดขากันอีกแล้ว 555
ใกล้ๆ ตลาดมีร้านไอศกรีมร้านนึงที่อยากบอกทุกคนว่ามาเถอะ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ถ้าได้มากิน! ร้านนี้คือร้าน Satimi Ice Cream เป็นร้านไอศกรีมโฮมเมดบนเกาะพะงันที่รสชาติของไอศกรีมจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามวัตถุดิบแต่รับรองว่าอร่อย! อย่างตอนที่เราไป มีระกำน้ำปลาหวาน / มะลิใบเตย และรสชาติของผลไม้ต่างๆ หอม หวานธรรมชาติ เด็กๆ ชอบแน่นอน และรสชาติแบบนี้ถ้าขายตามเมืองใหญ่ๆ แน่นอนว่ามี Scoop ละ 70-80 แต่นี่ลูกละ 30-40 บาทเท่านั้น บ้าไปแล้ววว!
เราอยู่เกาะพะงันทั้งหมด 2 คืน วันสุดท้ายทั้งวันก่อนกลับเราใช้เวลาอยู่ในโรงแรมพักผ่อนตื่นสายๆ นอนอ่านหนังสือ ดินเนอร์สวยๆ ในโรงแรมที่อาหารอร่อยและราคาไม่ได้แพงกว่าข้างนอกเลย หรือจะพายคายัค เล่นน้ำ นวดสปา และเล่นกับน้องหมาทั้งวันจริงๆ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วง่ะ! ดูหน้าเจ้าหมาเลียปากใหญ่เลย
แล้วถ้าเป็นคนชอบดูวิว Sunset ยามเย็นละก็ เชิญจ้ะ เราขอแนะนำ Apichada View Point อยู่สูง สวยงามมากกกแถมวิวอลังการ ใกล้ๆ เป็นต้นมะพร้าวยาวไปจบที่ทะเล เหมาะแก่การมานอนจิบเบียร์เย็นๆ ดูพระอาทิตย์ลับตา
รอบเรือจากเกาะพะงันไปเกาะสมุยนั้นมีแทบทั้งวันแถมยังใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาทีเท่านั้นอย่างที่บอกไป เพราะฉะนั้นเชิญเอ็นจอยเกาะพะงันกันให้เต็มที่เลยจ้ะ แถมเที่ยวบินจากเกาะสมุยกลับเข้ากรุงเทพนั้น ไฟลท์สุดท้ายออกเกือบสี่ทุ่ม!!! และสนามบินสมุยนั้นมีความยูนีคมาก เปิด OpenAir และมีซุ้มเลาจน์ขนมให้กินกรุบกริบกันได้จนเรียกขึ้นเครื่องเลยจ้า ความคิ้วท์อีกอย่างนึงคือเป็นไม่กี่สนามบินเดียวในประเทศไทยนะที่เวลาจะขึ้นเครื่องบินต้องนั่งรถรางไป
นี่คือความชิวตลอด 4 วัน 3 คืน จากเกาะเต่าและเกาะพะงัน กล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นการมาเสียเวลาที่ไม่เสียดายเวลามากที่สุดทริปนึง สมองโล่ง ปลอดโปร่ง กลับไปพร้อมทำงานต่อมากๆ ชีวิตดีเพราะได้มาพักผ่อนจริงๆ ชีวิตการเดินทางมันมีอะไรหลากหลายมากๆ อย่าทำงานหนักเพื่อมาแพลนเที่ยวให้ตัวเองเหนื่อยกว่าเดิมในทุกๆ ทริป ทำให้ชีวิตมันบาลานซ์ ออกไป Capture The Moment ดีๆ กับเพื่อนฝูงซะบ้าง แล้วชีวิตดีๆ จะทำให้ทุกอย่างจะไปได้สวย ?
