Now Reading:

The Temple route in Myanmar

The Temple route in Myanmar

ถ้าจะถามหาประเทศที่ผู้คนยิ้มง่าย ใจดี เขี้ยวหมากปากแดง และขี้อายเป็นที่หนึ่ง เรายกให้ ‘เมียนมาร์’ ประเทศที่ก่อนโควิคต้องไปอย่างน้อยปีละครั้ง! ก็แหม เรามันสายมูเตลู นอก จากสวย เก่ง ทำงานเป็นแล้ว ชีวิตนี้ก็ขาดไม่กี่อย่างที่เทวดาบอกให้มาหาเอาเองตอนเกิดนั่นคือ ‘ความรวยและความรัก’ พม่าเลยเป็นประเทศที่พึ่งทางใจสำหรับเราเสมอ 5555 ไหว้เสร็จแล้วเหมือนมีแรงฮึดสู้ เอาวะนางช้อยชั้นทำได้แน่! และแน่นอนเชื่อว่าอีกหลายๆ คนก็เป็น!

อัลบั้มนี้ขอพาไปเดินเที่ยววัดในประเทศเมียนมาร์ เพื่อนบ้านที่เรารักมากและจะอยู่ข้างเพื่อนๆ ชาวเมียนมาร์เสมอ นี่คือประเทศที่น่าค้นหาและมีอะไรให้น่าค้นหาพร้อมให้เราไปเรียนรู้อยู่เสมอ เพื่อเข้าใจกันและกันมากขึ้น พอพูดถึงวัดก็อย่าพึ่งหาวให้เห็นดาวเห็นเดือนไป! วัดที่นี่มีอะไรให้น่าค้นหามากกว่าที่คิด แต่ละเรื่องราวและความอลังการ มันจะทำให้เราเข้าใจเเละหลงรักที่นี่ได้ไม่ยากเลย ถอดรองเท้าไว้ในรถ นุ่งโสร่ง หรือแต่งตัวงามๆให้เรียบร้อยและทาแป้งทานาคา เดินเต้นแบบสะดุ้งเพราะพื้นร้อนนิดหน่อย แล้วมาตะโกน ‘มิงกะละบา เมียร์มา’ ที่คิดถึงไปด้วยกัน

อ่านรีวิวทริปการท่องเที่ยวในพม่าอื่นๆ ของเรา

Mystery unlocked Mandalay คลิกที่นี่

24 hrs. Feel Unique in Yangon, Myanmar คลิกที่นี่

Big Smile from Myanmar คลิกที่นี่

Shwenandaw monastery

วัดอายุกว่า 100 ปี ที่ยังหลงเหลือเเละคงความงามอยู่เเม้จะผ่านการทิ้งระเบิดอย่างหนักในสมัยสงครามโลก ตัววัดสร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 อดีตเคยเป็นเป็นวังในเขตพระราชวังมาก่อน ความโดดเด่นของวัดอยู่ที่สถาปัตยกรรมไม้เเกะสลักที่มีความงดงามเเละเเฝงไปด้วยมนต์ขลังของกาลเวลา มาที่นี่แนะนำให้มาช่วงเย็น หลัง 4 โมงเย็นเป็นต้นไปเพราะสวยมาก ไหว้พระเรียบร้อย เเล้วอยากที่จะซื้อซิ่น นุ่งสโร่ง เดินเล่น ถ่ายรูป โพสท่า สักหนึ่ง!

Atumashi Kyaugdawgyi

เดินเลยเข้าไปอีกนิดประมาณ 300 เมตรจะเจอวัดอีกวัดนึง ชื่อ วัดอทูมาชิ ตามประวัติศาสตร์วัดนี้ถูกสร้างในสมัยพระเจ้ามินดงสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์พระไตรปิฎกของหลวง ตัววิหารเดิมเคยสร้างด้วยโครงสร้างไม้เเละฐานปูนก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นเเบบปัจจุบันเนื่องจากเหตุไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2433 บริเวณโดยรอบวัดอทูมาชิค่อนข้างเงียบสงบเราสามารถเดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศยามเย็น ก่อนเข้าไปกราบสักการะเสริมดวงข้างในวิหารต่อได้

Kuthodaw Pagoda

อีกหนึ่งเจดีย์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศพม่า ซึ่งใช้รูปแบบการสร้างแบบเดียวกับเจดีย์ชเวซิกอง ในเมืองพุกาม เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกการสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่ 4 ของโลก ความเล่นใหญ่ของที่นี่ คือ มหาเจดีย์จำลองนี้เต็มไปด้วย มณฑปที่สลักข้อความทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ ลงบนแผ่นหินอ่อนขนาดใหญ่รอบๆ ตัวเจดีย์ เค้าว่ากันว่านี่คือแผ่นจารึกพระไตรปิกฏที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะ ซึ่งมันใหญ่จริงๆ แผ่นเบ้อเร่อ ล้อมรอบเจดีย์ โดยถ้าไปยามเย็นเเสงพระอาทิตย์สีเเดงตกกระทบบนยอดเจดีย์สีทอง คือ สวยคมจริงๆ หรือจะเดินช้าๆ พร้อมถือดอกบัวในมือบริเวณมณฑปก็น่าประทับใจ!

Hsinbyume Pagoda

เจดีย์ในประเทศเมียนมามีความแตกต่างกันไปตามแต่ละยุคแต่ละสมัย เจดีย์นี้มีความเเตกต่างจากเจดีย์อื่นๆ โดยเจดีย์นี้ใครๆ ก็บอกว่าเป็นทัชมาฮาลเเห่งลุ่มน้ำอิรวดี เพราะกษัตริย์ที่สร้างขึ้นเนี่ยสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของกษัตริย์เมียนมาที่มีต่อมเหสีอันรักยิ่ง เจดีย์ชิวพินเมมีลักษณะเป็นชั้นๆสีขาว มีลักษณะรูปเกลียวคลื่นที่ถ่ายรูปออกมาเเล้วสวยมาก เจดีย์ของที่นี่สร้างอิงตามหลักจักรวาลของพระพุทธศาสนา ให้มีเขาพระสุเมรุอยู่บนยอดเขาตรงกลาง มีน้ำ มีฟ้า มีมหาสมุทรและอะไรอยู่ล้อมรอบ ซึ่งตัวเจดีย์ที่เราเห็นในปัจจุบันเป็นเจดีย์ที่ถูกบูรณะใหม่หลังเหตุเเผ่นดินไหวในเมียนม่าเมื่อปี พ.ศ. 2379 โดยวัดนี้ก็เหมือนวัดอื่นๆ ที่พม่าที่ก่อนเข้าวัดต้องถอดรองเท้า ทำให้มาก่อนเที่ยงก็จะดีเท้าจะได้ไม่ลวก 555

Shwesandaw Pagoda

นี่เป็นชุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามรุ่งอรุณ เเละชมอาทิตย์อัสดงในยามเย็นที่ฮิตที่สุด เพราะเราจะเห็นทะเลเจดีย์กว้างใหญ่มากๆ จนต้องทึ่งในความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวพม่ามากๆ ที่นี่เป็น Destination ที่ฝรั่งจากทั่วโลกอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองกันมากๆ แต่พวกเราอยู่กันใกล้แค่นี้เองคือพลาดไม่ได้เเล้ว ถ้าสถานการณ์หลายๆอย่างดีขึ้นสงสัยต้องเตรียมเพิ่มไว้ใน Bucket List อีกสักที่ซะเเล้ว

Ananda Temple

วิหารอนันดา ตั้งชื่อตามพระอานนท์ที่มีความหมายไม่มีที่สิ้นสุดของปัญญา เป็นวัดที่ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากทางด้านสถาปัตยกรรมและพุทธศิลป์มากที่สุด เเต่น่าเสียดายที่หลังเหตุเเผ่นดินไหวทำให้ที่นี่ถูกบูรณะเเละมีการย้อมขัดสีใหม่ ทำให้ตามความคิดเราที่นี่มนต์ขลังบางอย่างมันหายไป เเต่ถามว่าสวยมั้ยก็สวยนั้นเเหละ มีลักษณะเด่นคือตัวเจดีย์ที่เป็นสีขาว เเละการวางผังตามเเบบสถาปัตยกรรมอินเดียที่มีพื้นที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีซุ้มประตูยื่นออกไป 4 ด้านคล้ายคลึงกับไม้กางเขน เชื่อมไปสู่ตัววิหาร

Shwezigon Pagoda

เจดีย์ชเวสิกอง หรือ เจดีย์เเห่งชัยชนะ 1 ใน 5 ศาสนบูชาสถานสูงสุดของชาวพม่า ความสวยงามของที่นี่สวยไม่แพ้ชเวดากองที่ย่างกุ้งเลย ลักษณะของเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำที่หุ้มด้วยเเผ่นทอง ไฮไลท์ของที่นี่ คือ บริเวณลานหน้าบันไดทางขึ้นสู่เจดีย์ทิศตะวันออก มีบ่อเล็กๆใส่น้ำไว้เมื่อมองลงไปจะเห็นยอดเจดีย์ที่สะท้อนลงมายังผิวน้ำ อีกหนึ่งความเก๋ของที่นี่คือโถงทางเดินด้าน หน้าวัดที่มีเสาเป็นแพทเทิร์นเรียงยาว เราสามารถมาเดินแอ๊บสวยๆ ใส่ซิ่น กางร่มกระดาษสา ยืนโพสท่าแบ๊วๆ ถ่ายรูปได้

Dhammayan Gyi Pagoda

หนึ่งในวิหารที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่และแข็งแรงที่สุดในเมืองพุกาม เพราะก่อสร้างด้วยอิฐเเดงนับล้านๆ ก้อน ตัวอาคารมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขยื่นออกมาสี่ด้านคล้ายวัดอนันดา ด้านบนสามารถปีนขึ้นไปได้ หากแวะขึ้นไป ช่วงเย็นๆ อากาศไม่ร้อนมาก แดดส่องลอดกิ่งไม้ลงมาคือดี ความหนักเเหน่นของตัววิหารที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางเเสงเเดดเเละทะเลเจดีย์ ทำให้วิหารเเห่งนี้ยิ่งใหญ่สมคำล่ำลือจริงๆ

Su Taung Pyae Pagoda

วัดซูตองพญา หรือ มัณฑะเลย์ฮิลล์ เป็นจุดชมวิวมุมสูงที่ตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งนอกจากเป็นจุดชมวิวเเล้วยังมีวิหาร ซูตองพญา ซึ่งมีรูปทรงคล้ายมณฑปครอบพระมหามัยมุนี ภายใต้วิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ ตอนเย็นผนังของวัดจะส่องแสงระยิบระยับๆ บรรยากาศชมวิวแม่น้ำอิระวดี เเละทะเลเจดีย์ พร้อมรับลมเย็นๆบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ

Shwedagon Pagoda

นึกถึงวัดในพม่าจะไม่พูดถึงชเวดากองก็คงไม่ได้ เจดีย์ชเวดากองคาดว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อราวๆ 2500 ปีก่อน ลักษณะเด่นของเจดีย์นี้คือสีทองที่เด่นตระหง่านเเม้มองจากที่ไกล มาที่นี่ขอเเนะนำให้มาช่วงบ่ายเเก่ๆ เพราะจะได้เห็นเจดีย์สีทองซึ่งถูกย้อมด้วยเเสงพระอาทิตย์ตกดินที่ค่อยๆ กลับสว่างขึ้นในช่วงค่ำ โดยที่นี่เเม้คนจะเยอะเเต่มันได้ฟีลลิ่งที่สงบอย่างน่าประหลาด ไม่เเปลกเลยที่เจดีย์ชเวดากองจะเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจของคนพม่า วิถีชีวิตที่ศรัทธามากๆ ของคนพม่าที่มีต่อเจดีย์ชเวดากองพอเห็นเเล้วก็อดศรัทธาไปด้วยไม่ได้

The Temple route in Myanmar

Booking.com
Input your search keywords and press Enter.