สิ้นปีแบบนี้ใครเหนื่อยที่จะต้องแพลนทริป เบื่อกับการเดินทาง Hopping ไปตามจุดต่างๆ แต่อยากเที่ยวเล่นดูวิว Sunset สวยๆ นอนเอกเขนกรับลมเย็น และมีกิจกรรมทุกอย่างแบบครบลูปการใช้ชีวิตเราขอแนะนำ ‘ล่องเรือสำราญ’ ทริปที่เพื่อนๆ ทักสตอรี่มาถามแล้วก็ต้องอวยกันไปว่า ‘เหมือนฝัน!’ เราสามารถใช้คำนี้ได้เสมอต้นเสมอปลายมากๆ กับการล่องเรือสำราญ เพราะมันสำราญได้สมชื่อมาก บอกเลยว่านี่ไม่ใช่ทริปสำหรับคนแก่ ไม่ใช่ทริปวัยเกษียณ แต่เป็นทริปสำหรับคนรักสบาย ที่อยากใช้ชีวิตแบบจอยๆ กับกิจกรรมบนเรือสำราญที่สูงกว่า 18 ชั้นอย่าง Resort World Cruise ไม่แน่นะ! มันอาจจะกลายเป็นอีกหนึ่ง Bucket List ที่คุ้มค่าของเธอก็ได้
Resort World Cruise คือเรือลำล่าสุดที่เราพึ่งล่องมาเมื่อปลายเดือนนี้เอง หลังจากการเปิดประเทศได้ไม่นาน เส้นทางการล่องเรือสำราญในเอเชียต่างๆ ก็เปิดขึ้นอีกครั้ง Resort World Cruise ก็คือหนึ่งในนั้น โดยเรือจะวิ่งเส้นทางรอบเอเชีย ทั้งสิงคโปร์ ปีนัง กัวลาลัมเปอร์ สุราบายา บาหลี และกรุงเทพฯ โดยจะสลับเส้นทางไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะกินเวลาตั้งแต่ 2วัน 1 คืนไปจนถึง 5 คืน 6 วันกันเลยทีเดียว
เส้นทางที่เราเดินทางล่าสุดเป็นทริปสั้นๆ สำหรับพักผ่อนบนเรือเป็นหลัก 3 วัน 2 คืน คือเดินทางระหว่าง สิงคโปร์-กัวลาลัมเปอร์-สิงคโปร์ ให้เราได้พักผ่อนอย่างสบายใจ ออกเดินทางจากสิงคโปร์ช่วงเย็นของวันแรก และถึงกัวลาลัมเปอร์ช่วงสายของวันที่ 2 และใช้เวลาคืนวันที่ 2 ล่องในน่านน้ำสากลก่อนกลับสู่สิงคโปร์
เรือสำราญส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดในเวลานี้จะต้องขึ้นจากสิงคโปร์ที่ท่าเรือ Marina Bay Port ห่างจากสนามบินประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น นั่งแท็กซี่จากสนามบินแค่ประมาณ 20SGD เสร็จแล้วแค่เช็คอินและขึ้นมาบนเรือก็ฟินแล้วฟินแล้ว และถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วบอกว่าค่าตั๋วสิงคโปร์แพงไป บอกเลยว่า Resort World Sentosa เป็นเรือลำเดียวที่สามารถขึ้น-ลงจากกัวลาลัมเปอร์ได้ด้วย ซึ่งค่าตั๋วจากเมืองหลักๆ ในไทย-กัวลาลัมเปอร์ หลักร้อยยังมีให้เห็นบ่อยๆ!
Resort World Cruise มีทั้งหมด 18 ชั้นใหญ่มาก และมันมีทุกอย่างที่เรียกว่าเรือสำราญโดยแท้เลยหละ เอาเป็นว่านึกอะไรออกเกี่ยวกับสิ่งที่การพักผ่อนควรมี บอกเลยว่าบนเรือมีให้จริงๆ เริ่มตั้งแต่สวนน้ำขนาดย่อม Water Slide Park พร้อมสไลด์เดอร์ 3 รางที่คดเคี้ยวอยู่ในเรือให้ได้สนุกกันอย่างเต็มที่ แถมมาพร้อมด้วยหน้าผาจำลอง Rock Climbing Wall สำหรับคนที่ไม่กลัวความสูงให้ขึ้นไปดูวิวสวยๆ ด้านบน หรือถ้าใครอยากรับลม ท้าแดดและเพิ่มความเสียวให้ชีวิตที่นี่ก็ยังมี Zipline and Ropes Course ที่สูงกว่า 35 เมตรและสนาม Mini Golf ให้เราลอยเคว้งในมหาสมุทร รวมไปถึงกิจกรรมหลักต่างๆ เช่นโฟมปาร์ตี้ / กิจกรรมทางน้ำที่สามารถเล่นได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สำหรับเรื่องห้องพักที่หลายคนอาจจะกังวลมากรวมทั้งเราด้วย เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือตั้งหลายคืน เราอยากแนะนำห้องพักแบบมีระเบียง BALCONY STATEROOM ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง แถมขนาดห้องก็ใหญ่กว่าเรืออื่นๆ นิดหน่อย เตียงขนาด Queen Size Bed โซฟา ห้องน้ำที่อุปกรณ์ครบครัน และโซฟาพร้อมทีวีที่มีภาพยนตร์เรื่องใหญ่ๆ ให้ดูตลอดทั้งวันทั้งคืนฟรีๆ พักห้องละ 2 คนสบายๆ เลยหละ
บนเรือจะมีห้องอาหารฟรีที่รวมมาแล้วในแพ็คเกจด้วยกันอยู่ 3 ห้อง โดยสามห้องนี้จะมีอาหารหลายสไตล์ ทั้ง จีน ฝรั่ง อินเดีย และอาหาร Set Menu แบบ Chinese และ Western เพราะฉะนั้นเลือกได้เลยค่ะ เดินเลือกกินได้เลยว่ามื้อไหนอยากจะกินอะไร ทั้งห้องอาหารที่ชื่อ The Lido และ Dream Dining Upper and Lower เป็นห้องที่มีการจัดการที่ดีมากๆ รอคิวไม่นาน รสชาติก็กลางๆ นะ เพราะบนเรือมีหลายเชื้อชาติเค้าต้องทำให้ทุกคนทานได้จริงๆ
ห้องอาหารที่ชื่อ The Lido เป็น International Buffet Line
แต่ถ้าอยู่หลายวันและเริ่มเบื่อ ก็อีกห้องอาหารอีกเป็น 10 ร้านให้เธอเลือกทานได้ตามใจชอบเลย อย่างเราไปทานที่ Bistro by Mark Best เป็นอาหาร Western แบบ Fine Dining ที่อร่อยมากๆ เนื้อนุ่ม ซีฟู๊ดสดมาก หรืออาหารญี่ปุ่นประเภท Tepanyaki ก็มีนะ ชื่อห้องอาหาร Umi Uma เป็นเทปันยากิที่กินไปแบบไม่คาดหวังเพราะบนเรือมันจะอร่อยได้แค่ไหนกันเชียว แต่เอ้า.. เนื้อดีไปอี้ก กุ้งก็แสนแน่น ผักผัดเนยก็หอม เลิศมากจริงๆ สมแล้วที่ต้องเสียเงินเพิ่ม!
ที่นี่ยังมีโชว์ที่เค้าเคลมว่าโด่งดังระดับบอร์ดเวย์ให้ดูฟรีๆ ทุกคืนที่ Zodiac Theatre จะสลับกันโชว์คืนละโชว์ อลังการและตื่นตาตื่นใจ รวมทุกๆ อย่างที่ทำให้เราตาค้างได้ไว้ด้วยกัน
สายปาร์ตี้ก็ห้ามพลาดเพราะมีบาร์มากกว่า 10 แห่งกระจายอยู่ทั่วเรือ มีเปิดทั้งคืนและเปลี่ยนแนวดนตรีไปเรื่อยๆ แถมยังยกผับชื่อดังของสิงคโปร์อย่าง ZOUK ขึ้นมาไว้บนเรือด้วยนะ! รวมถึงลานโบว์ลิ่งเรืองแสงให้เล่นไปอีก และมีทั้ง ZOUK ที่เป็นโซนแดนซ์มันส์ๆ กับ ZOUK Beach Club ที่จำลองบรรยากาศชายหาดไว้ท้ายเรือมีโซฟานุ่มๆ ให้นอนดูหนังเพลินๆ รับลมเย็นๆ และดูพระอาทิตย์ตกดินก็เก๋!
เด็กน้อยทั้งหลายก็ไม่ต้องกลัวเหงาเพราะมีกิจกรรมให้ทำทั้งวันจนเหนื่อย ทั้งห้องตู้เกมส์ที่เริ่มต้นเกมส์ละ 50 บาท บวกกับเล่นสวนน้ำกลางทะเลก็ฟินๆ กันไป พ่อแม่เห็นลูกหัวเราะคิกคักก็ยิ้มปลื้มใจกันใหญ่ ส่วนวัยรุ่นอย่างพวกเราถามว่าตอนกลางวันทำอะไรอะหรอ? ก็นอนดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือไปเรื่อยๆ มี Lounge นึงที่เราชอบมากๆ ชื่อว่า Palm Court เป็นเหมือนห้องรับแขกอยู่บริเวณหัวเรือชั้นบน เบาะนุ่ม โซฟานิ่ม ยิ่งวันไหนอากาศดีๆ มองทะเลออกไปสุดลูกหูลูกตาคือสัมผัสได้ถึงความชีวิตจริงๆ อะ!
บนเรือยังมีโรงภาพยนตร์ และจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ให้ทุกคนได้ล้อมวงนั่งดูหนังด้วยกันอย่างสนุกสนานหรือใครอยากทำสวยก็มีสปาและซาลอนให้ทำ ส่วนใครที่อยู่บนเรือหลายวันแล้วกลัวไม่ฟิตแอนด์เฟิร์ม ที่นี่ก็ยังมีฟิตเนสเปิดตลอด 24 ชั่วโมงเลยด้วย!
นี่คือสวรรค์ลอยน้ำที่ใครๆ ก็มาสัมผัสได้ด้วยตัวเองซักครั้ง อยากให้เก็บมันไว้เป็นอีกหนึ่ง Budket list ที่ควรทำ การมาล่องเรือไม่ใช่กิจกรรมของคนแก่ ไม่ใช่การล่องเรือแบบในแม่น้ำเจ้าพระยา หรือล่องแบบน่าเบื่อๆ แต่ที่นี่มันมีเรื่องให้เราตื่นเต้นทุกวัน สนุกสุดเหวี่ยงตลอด 24 ชั่วโมงไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน อยากให้ลองมาซักครั้ง มันไม่ได้แพงอย่างที่คิดจริงๆ แถมยังสามารถเลือกจุดเริ่มต้นการขึ้นเรือได้ทั้งที่สิงคโปร์ และกัวลาลัมเปอร์ ในราคาเริ่มต้น 3 วัน 2 คืนแค่หลักหมื่นต้นๆ
ทริปนี้เราเดินทางกับ Excellent Vacation Group ซึ่งเป็นบริษัทหลักที่เป็น Authorizeation หลักๆ ของเรือสำราญหลายๆ เจ้าในประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่าเธอจะได้ราคาพิเศษที่สุดแน่นอนสำหรับการเดินทางล่องเรือสำราญในแต่ละครั้ง
excellentvacation01@gmail.com หรือโทร : 080-9166353 (ทีมงานเรือสำราญ) หรือแอดไลน์เพื่อรับโปรโมชั่นดีๆ ได้ทางLine @excellentvacation
