The Ultimate Cruising Escape ชวนล่องเรือสำราญข้ามมหาสมุทร แบบจัดเต็ม 5 วัน 4 คืน ที่สุดของการพักผ่อนที่ได้ ‘พัก’ จริง ๆ แบบไม่ต้องรอแก่ก่อนถึงได้ไปบนเรือ ‘Spectrum of The Seas’ ทริปล่องเรือสำราญท่ามกลางมหาสมุทรล่าสุดของเรา
สุขใดเล่าจะเท่าการไปเที่ยวพักผ่อน นอนบนเตียงผ้าใบขยับหมวกปีกว้างใบโตไปเห็นเกลียวคลื่นทะเลสวยท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ กินอาหารอร่อย ๆ จิบชา ต่อด้วยทำกิจกรรมยามบ่ายแบบติดแกรม ให้ร่างกายได้พักหลังจากเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาครึ่งปี ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจริงแล้วค่ะ บนเรือ ‘Spectrum of The Seas’ ทริปล่องเรือสำราญท่ามกลางมหาสมุทรล่าสุดของเรา ที่ใช้เวลาบนเรือลำใหญ่ยักษ์แบบ 5 วัน 4 คืน มุ่งหน้าจากเซี่ยงไฮ้ สู่โอกินาว่า จากนี่ห่าวมาสู่คอนนิจิว๊าาา ที่สุดของการพักผ่อนที่ได้ ‘พัก’ จริง ๆ แบบไม่ต้องรอแก่ก่อนถึงได้ไป
A
เพราะทริปนี้เหมือนได้ให้รางวัลตัวเองในวัย 30 พร้อมสนองนี้ดความลักชู ด้วยการเดินสวย ๆ ถือกระเป๋าและบัตรใบเดียว ขึ้นเรือสูง 16 ชั้นฟ้า ล่องไปตามมหาสมุทรประดุจเจ้าหญิง ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องทำแพลนเที่ยว หรือเดินทางให้เหนื่อย เพราะบนเรือลำนี้จัดเต็มทุกความสะดวกสบาย และกิจกรรมที่เค้าคิดมาให้หมดเเล้ว ตั้งแต่ร้านอาหาร คาเฟ่ สเตจโชว์สุดอลังการ อ่างน้ำวนนวดตัว และสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่เปิดหนังใจกลางมหาสมุทรแบบฟิน ๆ
ถ้าคิดว่านี่ยังพิเศษไม่พอ ยังมีกิจกรรมไฮไลต์สมฐานะการเป็นเรือที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชียด้วย FlowRider® เซิร์ฟจำลองที่โคตรสนุก Skydiving ลอยละล่องในสภาวะไร้อากาศใจกลางมหาสมุทร ขึ้น North Star® ลิฟต์ชมวิวบนเรือที่สูงที่สุดในโลก ไปชื่นชมความสวยงามของมหาสมุทรยามพระอาทิตย์ตกดินที่ประทับใจไม่มีลืม
บอกเลยว่าทั้งสนุกและได้พักผ่อนในเวลาเดียวกัน ในราคาเริ่มต้นแค่ 23,500 บาท/คน ทุกอย่าง All Insclusive แล้วทั้งอาหารและกิจกรรมไม่ต้องจ่ายเพิ่มเ! ยกเว้นตั๋วเครื่องบินไปเซี่ยงไฮ้ บวกลบคูณหารแล้วคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ดูรายละเอียดโปรโมชั่นและจองได้ที่ Phoenix Vacation Group หรือโทร 080-354-9249 และ Line : @pvg1
A
Spectrum of the Seas
‘Spectrum of the Seas’ เป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ในตระกูล Quantum Ultra-Class ของ Royal Caribbean ผู้ให้บริการเดินเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีเรือหลากหลายประเภทที่เดินทางหลายเส้นทางในมหาสมุทร ซึ่งเรือลำนี้จะประจำการอยู่ที่ท่าเรือ Baoshan Port ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
ใช้เวลาเดินทางจากเส้นทางเซี่ยงไฮ้ไปกลับโอกินาว่า 5 วัน 4 คืน บนเรือสำราญขนาดยักษ์ที่สูงกว่า 16 ชั้น ในราคาเริ่มต้นแค่คนละ 23,500 บาท ทุกอย่าง All Inclusive ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่ม ยกเว้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับเซี่ยงไฮ้ แถมตอนนี้ Phoenix Vacation Group เค้ามีโปรโมชั่นดี ๆ ในราคาพิเศษหลากหลายเส้นทางให้เลือก และครั้งนี้เราก็เก็บภาพความชิลและความสนุกที่เป็นไฮไลต์ของเรือสำราญ ‘Spectrum of the Seas’ เส้นทาง เซี่ยงไฮ้ – ญี่ปุ่น มาฝาก เป็นการป้ายยา ที่ทุกคนต้องว้าวแล้วกดจองตามทันทีที่อ่านจบแน่นอน
เริ่มตั้งแต่ขึ้นเรือ ก็ใช้ชีวิตง่ายแสนง่ายด้วย ‘Sea Pass Card’ ใบเดียว สามารถใช้จ่าย เข้าออกห้องพักและเรือได้ ซึ่งคีย์การ์ดนี้แหละจะเป็นเหมือนเครดิตการ์ดบนเรือด้วยไปในตัว สามารถทานอาหารในห้องอาหารพิเศษ ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เย็น ๆ หรือเล่นกิจกรรมที่นอกเหนือจากของฟรีต่าง ๆ ที่ทางเรือเตรียมไว้ให้ แล้วค่อยตัดผ่านบัตรเครดิตหรือจ่ายเงินสดในวันสุดท้ายที่เรือกลับเข้าฝั่งทีเดียว สะดวกมากจริง ๆ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าคนที่เค้าไปล่องเรือสำราญเนี่ยเค้าพักกันยังไง แล้วจะเบื่อไหมไปตั้ง 5 วัน บอกเลยว่าสิ่งที่ทำให้เราว้าว คือบนเรือลำนี้มีห้องพักถึง 2,137 ห้อง! แต่ห้องพักไม่เล็กหรือแคบเลย แต่มีหลายไทป์ให้เลือกตามสไตล์การพักผ่อน อย่าง Ocean View with Balcony ที่เราพักจะเป็นห้้องพร้อมวิวทะเล ด้านในสะดวกสบายมีพื้นที่สำหรับโซฟาให้เรานั่งชิล ๆ พร้อมเตียงนุ่ม ๆ สำหรับพักผ่อน ส่วนใครไม่ชอบขยับตัวเยอะ อยากจะอยู่ห้องนอนชิล ๆ ปล่อยใจไปกับคลื่นทะเล ก็มีระเบียงพร้อมเก้าอี้ให้ดูวิวทะเลทั้งวันทั้งคืนแบบหนำใจ!
แต่ถ้ามากับเพื่อนหลาย ๆ คน เราแนะนำว่าให้จองห้อง Family Suite ก็ดี เพราะกว้างขวางมีทั้งห้องรับแขก และ 2 ห้องนอนแยก แถมมีพื้นที่ส่วนกลางให้ทำกิจกรรมร่วมกันได้ด้วย ถ้าคิดจะมาพักผ่อนนอนชิล นี่แหละตอบโจทย์ชีวิตแบบลูกคุณสุด ๆ
บนเรือ ‘Spectrum of the Seas’ นี่แหละสวรรค์ของคนที่ไม่อยากออกไปไหนแต่มีกิจกรรมและของอร่อยมาเสิร์ฟให้ทานถึงที่ ใครที่ยังไม่รู้ว่า 5 วันจะเริ่มที่ตรงไหนก่อนดี ก็ตามแพลนเรามาได้เลย
เริ่มกันที่มื้อแรกบนเรือ เค้าจะมีห้องอาหารที่รวมอยู่ใน Package แล้วให้เลือกทานฟรีได้มากกว่า 6 ห้องอาหาร แต่ละห้องจะเปิด-ปิด เวลาที่แตกต่างกัน แต่ไม่ต้องห่วงเพราะเค้ามีรายละเอียดบอกว่าห้องไหนเสิร์ฟมื้อเช้า มื้อเที่ยง หรือมื้อเย็น เริ่มทานได้ตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงไว้ให้
เราและแก๊งเพื่อน ๆ ก็ขอเปิดประเดิมกันที่ Sorrento’s ห้องอาหารวิวทะเลที่เสิร์ฟพิซซ่าและขนมหวานทานง่ายอร่อย ๆ มารองท้องกันก่อนออกสำรวจเรือ จะบอกว่าพิซซ่าเค้าหยิบได้ไม่อั้นนน เลือกทานได้หลายรสแบบเต็มที่
พออิ่มอกอิ่มใจไปกับพิซซ่าริมทะเล ก็เริ่มเลยกับความสนุกแรกบนเรือที่ SeaPlex® ถ้าให้นิยามก็เหมือนโรงยิมสำหรับจัดกิจกรรมอินดอร์ เราชอบที่นี่เป็นพิเศษเพราะเค้าเป็นเหมือนสนามกลางที่เปิดแอร์เย็นสบาย และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกิจกรรมมาให้เล่นตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น Bumper Car ขับรถคนละคันบั๊มกับเพื่อนแบบสะใจ, ลานตี Badminton โต๊ะปิงปอง โต๊ะโกล์ หรือที่เราเรียกกันว่าโต๊ะบอลมือหมุนให้เล่นสนุก ๆ กันทั้งเพื่อนและครอบครัว แถมยังมีตู้เกมสนุก ๆ หลากหลายรูปแบบ ให้เราได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
เล่นเพลินจนแทบลืมเวลา ถ้าหิวก็ไม่ต้องรอให้ไส้กิ่วเดินออกมาหาอะไรอร่อย ๆ ทานที่ Sea Plex Dog House ที่มี Hot Dog ไส้กรอกหมู ไก่ เนื้อให้รองท้องแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเลยแม้แต่บาทเดียว
The Ultimate Cruising Escape ชวนล่องเรือสำราญข้ามมหาสมุทร
It’s Time to Party!
ได้เวลาของการปาร์ตี้! กิจกรรมของที่นี่จัดยาวแบบไม่มีพักตั้งเช้าจรดเย็น ยาวไปเกือบตลอด 24 ชม. (ส่วนใหญ่จะถึง 24.00 น. แต่คาสิโนและบาร์บางจุดเปิดตลอดเวลา)
ถ้าชอบดูโชว์แนะนำให้ไปแวะมาที่ Royal Theatre เพราะทุก ๆ คืนจะมีโชว์สลับสับเปลี่ยนกันไป รับรองว่าอลังการทั้งแสง สี เสียง และ Costume แบบจัดเต็ม แต่บางโชว์อาจจะต้องดูเวลาแล้วจองที่นั่งก่อน แต่ส่วนใหญ่สามารถ Walk in เข้าไปได้เลย แถมทุกโชว์ดูฟรีแบบ All Inclusive! โชว์อลังการมากทั้งจอ แสง สี เสียง และ Costume จัดโชว์มาอย่างดีไม่มีอ่อม
แปป ๆ ก็ได้เวลาของอาหารเย็น ดินเนอร์รอบนี้เราขอเพิ่มโมเมนต์ความพิเศษ ให้ชีวิต Exclusive สมฐานะลูกคุณหนูบนเรือขึ้นมาอีก ที่ห้องอาหาร Main Dining Room เป็น Signature Restaurants ที่ต้องเสียเงินเพิ่มนะ ไม่ได้รวมอยู่ในแพ็คเกจ แต่เน้นเสิร์ฟอาหารแบบ Fine Dining หรูหรา มีทั้งเมนูสเต็กเนื้อออสเตรเลีย อาหารญี่ปุ่นแสนอร่อยให้เลือกแบบฉ่ำ ๆ นั่งสวย ๆ รอคนมาเสิร์ฟได้เลย นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารอื่น ๆ พิเศษอื่น ๆ ด้วย เช่น American Icon Grill, Coastal Kitchen และ SILK ให้ลองทานกัน
มาถึง ‘Spectrum of the Seas’ ทั้งทีจะให้บาเทนเดอร์ชงค็อกเทลให้จิบมันธรรมดาไป เพราะเรือนี้เค้าใช้ Robotic Bartenders ค่ะ! ทานอาหารเสร็จให้มุ่งพุ่งตรงไปที่ Bionic Bar อยากได้เครื่องดื่มรสชาติแบบไหนสามารถเลือกได้เลยทั้ง Mocktails และ Cocktails สองหุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ก็จะคอยรับออร์เดอร์เพื่อ Mix เครื่องดื่มเก๋ ๆ ให้เธอได้ลองชิม แล้วรสชาติออกมาอร่อยถูกใจ เพราะน้องรู้หมดว่าผสมอะไรออกมาแล้วอร่อย นี่น่าจะเป็นการจิบเครื่องดื่มที่ไฮเทคที่สุดที่เราเคยเจอมาเลย
น้องบาเทนเดอร์ตัวนี้เป็นงานมากค่ะ หยิบจับอะไรคล่องไปหมด เป็นอีกหนึ่งสีสันบนเรือที่ไม่มีที่เรือลำอื่นแน่นอน
The Ultimate Cruising Escape ชวนล่องเรือสำราญข้ามมหาสมุทร แบบจัดเต็ม 5 วัน 4 คืน
A Gentle Start to Your Cruise Morning
เอาละเช้าวันใหม่ ถ้าอยากเปลี่ยนฟีลมาเที่ยวแบบพักผ่อนจริง ๆ บ้าง ก็ไม่ต้องห่วงไปว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยสีสัน และกิจกรรมที่ชวนให้ใจเต้นแรงไปเสียหมด เพราะอีกพาร์ทของการมา Relax ที่นี่ก็ทำให้เราได้มอบรางวัลพิเศษให้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เริ่มจากกิจกรรมเบา ๆ ยามเช้า ด้วยการรีดไขมันจากอาหารที่กินจนอิ่มเมื่อวานออกด้วยการไปฟิตเนส ออกกำลังกายเบา ๆ ให้ร่างกายเฟรชสดชื่นในวันใหม่ ที่นี่ยังมี Class ต่าง ๆ ให้เราเข้าร่วมไม่ว่าจะเป็นเต้น โยคะ ฯลฯ
ต่อด้วยอาหารเช้าแบบ Healthy ที่ The Cafe @Two70 สำหรับบางวันที่อยากทานอะไรเบา ๆ ไม่หนักจนเกินไปหลังออกกำลังกาย ที่นี่ก็มีเมนูอร่อย ๆ ให้เลือกเยอะจนตาลาย
สาย ๆ หน่อยแนะนำให้ไป Solarium ซึ่งเป็นโซนที่เราชอบมากที่สุดบนเรือลำนี้เลย! นี่แหละการพักผ่อนที่แท้ทรู ที่เงียบสงบได้ยินแต่เสียงคลื่น และไม่มีเด็ก ๆ มารบกวน เพราะออกแบบให้เป็นโซนสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
ชอบตรงที่เค้าออกแบบการพักผ่อนได้ดูดีมีเทสต์ ผ่านห้องกระจกที่มีแสงอ่อน ๆ รอดเข้ามาให้เราได้นอนอาบแดด กางหนังสือเล่มโปรดที่ไม่มีเวลาอ่านได้เพลินจนจบเล่ม ความพิเศษคือมี Whirlpools ถึง 4 สระ ให้เราและแก๊งเพื่อนนอนแช่ตัวสบาย ๆ แบบเป็นส่วนตัว พวกเราเลยใช้เวลาแช่น้ำวนนวดตัว นอนคุยกันแบบเพลิน ๆ จนแทบลืมเวลา
แต่ถ้าใครรู้สึกว่าโซน Solarium มันเงียบเหงาไป อยากมีฟีลเล่นกระโดดน้ำ หัวเราะเสียงดังไปกับเพือน ๆ ได้แบบไม่เคอะเขิน บนเรือก็ยังมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งอีกหลายสระที่สามารถเล่นน้ำไป ดูหนังจอใหญ่ไปด้วยกันได้เต็มที่ด้วยนะ แต่โซนนี้คนก็จะเยอะหน่อยโดยเฉพาะเด็ก ๆ เพราะอยู๋ใกล้เครื่องเล่น
A
Adventure Awaits on Board
ต่อไปคือไฮไลต์ที่ทุกคนจะรักการมาล่องเรือสำราญแบบเรา เพราะถึงแม้เธอจะอยากมานั่ง ๆ นอน ๆ ก็ไม่อาจต้านทานกิจกรรมไฮไลต์ของเรือ ที่จัดเต็มความสนุกแบบไม่มีเบื่อมาไว้ได้อย่างแน่นอน เพราะนอกจากเรือลำนี้จะใหญ่และทันสมัยที่สุดในเอเชีย ยังรวมความว้าวหลาย ๆ อย่างเอาไว้ แต่เราขอหยิบยกมาเฉพาะกิจกรรมที่เราและแก๊งเพื่อนไปลองเล่นมาแล้วชอบให้ฟังกัน
เราสามารถโหลดแอพ Royal Caribbean International มาดูตารางกิจกรรมในแต่ละวันได้ เริ่มจากกิจกรรม Adventure ท้าทายความสามารถ เรียกเหงื่อรวมถึงใจเต้นแรงในวันหยุดนี้กันก่อน เริ่มที่ FlowRider® เค้าจะจำลองการเล่นเซิร์ฟ โดยมีครูสอนและดูแลความปลอดภัยให้แบบฟรี ๆ ลองหัดเล่นแปปเดียวก็เล่นได้แล้ว ทีนี้เรากับเพื่อนก็สนุกกันยาว ๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลย เหนื่อยแต่สนุกสุด ๆ
ไปต่อกันที่ Ripcord® by iFly® ที่เรายกให้เป็นกิจกรรมไฮไลต์เลย จะมีเรือสำราญกี่ที่ในโลกที่เปิดให้เราได้ลอง Skydiving Simulator กันบนเรือ นี่เลยครั้งแรกที่ทุกคนจะได้ลองลอยตัวอยู่ในสภาวะสุญญากาศ พร้อมล่องละลอยอยู่ใจกลางทะเล แถมไม่น่ากลัวเลย เพราะเค้ามีชุดพร้อมหมวกเซฟตี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะเค้าให้บริการโดยคำนึงถึง Priority เป็นอันดับแรกเสมอ
Aฆ
Shopping Therapy
เล่นน้ำจนเบื่อ ก็แวะไปช้อปปิ้งปรนเปรอตัวเองด้วยของฝากสุดลักชัวรีแบบจัดเต็มวงเงินกัน ที่โซนช้อปปิ้งที่เหมือนยกห้างดังมาไว้ในเรือ พร้อมขนแบรนด์เนมขึ้นมาให้เลือกซื้อกันได้ในราคาพิเศษ ทั้งกระเป๋า น้ำหอม เสื้อผ้า นาฬิกา ฯลฯ จนต้องอุทานออกมาว่าทริปนี้จะสะกดคำว่าเบื่อกี่โมง เพราะมันเพลินไปหมด
ช้อปปิ้งแบบเพลิน ๆ เพราะมีหลายโซนให้ดู จะมากับครอบครัว แฟน หรือแก๊งเพื่อนก็เดินช้อปด้วยกันได้
ระหว่างทางไปจุดต่าง ๆ ของเรือเราก็จะเพลิดเพลินกับการแวะพักบาร์เล็ก ๆ สั่งค็อกเทลมาจิบให้ชื่นใจ อย่างบาร์นี้ชื่อว่า Vintages Bar ตกแต่งหรูหราติดแกรมประหนึ่งบาร์หรูในโรงแรม พร้อมโชว์ลีลาของบาร์เทนเดอร์ฝีมือดีชงค็อกเทลซิกเนเจอร์ให้เราได้ลองชิม
A
และช่วงเวลาของการปาร์ตี้ก็กลับมาอีกครั้ง อีกพิกัดที่เราชอบและไปประจำทุกค่ำคืนคือ Two70 Bar บาร์สไตล์โรงละคร ที่ตอนกลางวันและกลางคืนคนละไวป์คนละบรรยากาศกันสุด ๆ
ช่วงกลางวันเค้าจะจัดกิจกรรมชิล ๆ แบบนอนดูหนัง พร้อมป๊อปคอร์นร้อน ๆ แถมหนังใหม่แกะกล่องแทบจะชนโรง ส่วนตอนกลางคืนก็เปลี่ยนเป็นผับสนุก ๆ แถมแต่ละคืนเค้าจะมีธีมไม่ซ้ำกัน อยู่ 4 คืนแวะมาที่นี่ก็บรรยากาศไม่ซ้ำกันเลย บางคืนก็ยังมีโชว์ไฮไลต์ ๆ ที่พร้อมเปลี่ยนกระจกให้กลายเป็นจอยักษ์สุดอลังการ โดยเฉพาะโชว์ Starwater อลังการจริง แนะนำให้บุคกิ้งคิวตัวเองมารอดูเลย
อย่างวันนี้จะเป็น Shush! Silent Party ปาร์ตี้แบบเงียบ เอ้าถ้าเงียบแล้วมันจะสนุกยังไง! จะบอกว่าสนุกมาก เค้าจะแจกหูฟังให้เราสวมคนละอัน และเปิดเพลงมันส์ ๆ ที่รันโดยดีเจชั้นนำตลอดทั้งคืน เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่อยากให้ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง
A
Cruise Landing to Okinawa
ข้อดีของการมาล่องเรือแบบ Cruising คือแต่ละทริปเค้าจะมีจุดหมายปลายทาง ไปจอดตามเมืองท่าต่าง ๆ ให้ทุกคนสามารถลงไปเที่ยวได้ด้วย อย่างทริปนี้เดสติเนชั่นของเราคือ โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวแค่ 5 วันแต่ไปเยือนได้ถึง 2 ประะเทศ เราเลยขอลงไปสัมผัสบรรยากาศความน่ารัก และชายหาดที่สวยงาม น้ำทะเลใสกิ๊ง กินของอร่อยประจำเมืองโอกินาว่าสักหน่อย
ซึ่งใครจะไปกับทัวร์ที่เรือจัดหาไว้ให้ (ทัวร์เสริมต้องจองล่วงหน้าก่อนถึงจุดหมาย 1 วันเดินทาง) หรือออกไปเที่ยวด้วยตัวเองก็ได้เช่นกัน แต่ต้องแพลนเวลาไว้ให้ดี ๆ จะได้กลับขึ้นเรือทันตามกำหนดเวลา พอเราลงเรือมาเราก็เลือกนั่งรถไฟไปเที่ยวที่ต่าง ๆ เพื่อทำเวลากันสักนิดจะได้เที่ยวแบบชิล ๆ
ซึ่งโอกินาว่ารอบนี้แม้เป็นเวลาสั้น ๆ แต่เก็บครบทั้งช้อปปิ้ง กินของอร่อยแถวนาฮะเมืองเล็ก ๆ ที่เที่ยวง่ายสะดวกสบาย เริ่มที่พิกัดประจำที่เราจะสวมบทเป็นมิตรรักนักคุ้ยของเก่า ไปช้อปปิ้งร้านขายเสื้อผ้ามือสองคุณภาพดี ที่ Manga Souko Naha อยู่ใกล้ ๆ สถานี Monorail เพียง 4 นาทีจาก Akamine St. ที่นี่มีของมือสองหลากหลาย ทั้งแบรนด์เนมมือสองคุณภาพดี และแบรนด์แบบยูนีค ๆ แต่ต้องใช้เวลาค้นกันให้ดีนิดนึงได้ของดี ๆ กลับไปใส่เพียบ
ไปต่อกันที่ย่าน Kokusai Dori ย่านช้อปปิ้งใจกลางเมืองของโอกินาว่า ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวโอกินาว่าเอง และนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งย่านนี้จะมีทั้งร้านขายของฝากน่ารักกระปุกกระปิก ตั้งแต่เซรามิก เครื่องประดับ ไปจนถึงผ้ามัดย้อมที่เป็นซิกเนเจอร์ของเมือง ทั้งบ้านเรือน ร้านค้า ข้าวของต่าง ๆ ที่วางขาย ก็น่ารักกระปุกกระปิกสมเป็นญี่ปุ่นสุด ๆ
เราก็ไม่พลาดแวะไปกินไอติมร้านดังเจ้าโปรดที่ Blue Seal ที่มาโอกินาว่าเมื่อไหร่ก็ต้องแวะมากิน ร้านนี้มีกลิ่นอายความเป็นฮาวายสุด ๆ แถมรสชาติไอศรีมอร่อยมาก ใครเป็นแฟน Soft Serve มั่นใจว่าจะอยากกินทุกวันจนน้ำตาลขึ้นแน่ ๆ
ก่อนกลับขึ้นเรือเราขอฝากท้องตอนเที่ยง เดินเล่นหาของกินอร่อย ๆ กันที่ตลาดมากิชิ มื้อนี้เดินเล่นเพลิน ๆ ก็ได้ Pork Tamago Onigiri คำใหญ่สอดไส้ทูน่าและไข่หวานมาชิมคนละอันสองอัน เป็นโอนิกิริที่คำใหญ่อร่อยมากกก
AA
Ending on a High Note
วันสุดท้ายขอจัดเต็มอาหารอร่อย ๆ แบบบุฟเฟต์กันที่ Wildjammer ที่เราสามารถทานได้ไม่อั้น เพราะเค้าจัดเต็มอาหารนานาชาติจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ให้ลองชิม
แม้จะเป็นวันสุดท้ายก่อนกลับ แต่เราอยากให้ทุกคนมาตื่นเต้นกันต่อกับมุมทางเดินของเรือที่เค้าออกแบบให้เป็นกระจกใส สามารถมองทะเลลงไปเห็นเกลียวคลื่นด้านล่างมหาสมุทรได้แบบใสแจ๋ว
ต่อด้วยโซน Rock Climbing Wall ที่กำแพงเค้าสูงไม่ใช่เล่น เล่นอย่างเดียวคือเล่นเอาหอบอยู่ ไม่ใช่กำแพงหินแบบเด็กอนุบาล แต่ต้องใช้กำลังทั้งแขนขา รวบรวมสมาธิไต่ขึ้นไปเอาชนะใจตัวเอง แต่พอได้มาเล่นกับเพื่อนรู้สึกมีกำลังใจเพราะเหมือนได้แข่งกันเอง สนุกมากก
ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ที่ไม่อยากให้พลาดที่สุดของ Spectrum of The Seas คือการชมวิวบนลิฟท์ที่สูงกว่า 90 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลที่ North Star® ซึ่งได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊ค ว่าเป็นลิฟท์ชมวิวบนเรือที่สูงที่สุดในโลก! แค่ฟังยังว้าว แนะนำเลยว่าต้องขึ้นไปชมด้วยตัวเองเท่านั้น! เพราะบนมุมสูงที่สุดของเรือเราจะได้เห็นทั้งความสวยงามของท้องทะเล และเรือที่แล่นอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตาจากฝั่งซึ่งไม่ได้ชมกันได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้าขึ้นตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน นี่แหละซีนประทับใจที่ไม่มีวันลืมของทริปนี้เลย
สำหรับคนที่สนใจการออกพักผ่อนล่องเรือสำราญ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องยากแล้วก็ไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ เพราะเรือลำใหญ่สามารถวิ่งในน่านน้ำได้ปกติตลอดทั้งปี แถมโปรโมชั่นดี ๆ ก็มีออกมาให้เห็นตลอด
แต่ถ้าอยากมาช่วงที่อากาศดีจริง ๆ แนะนำทริปปลายปี ตั้งแต่ช่วงปลายตุลาคม-สิ้นเดือนมีนาคม ฟ้าโปร่ง ลมเย็นสบาย ไม่ต้องห่วงเรื่องฟ้าฝน แถมได้ของฝากเป็นวิว Sunset สวย ๆ ตราตรึงใจที่ Exclusive มาก ๆ ไม่ว่าจะตั้งใจมาพักผ่อนชิล รวมตัวนัดตี้กับแก๊งเพื่อน หรือเปิดประสบการณ์ใหม่ของการเที่ยวแบบล่องเรือ เชื่อว่าทุกคนต้องประทับใจกับเรือ Spectrum of The Seas แน่นอน
เราว่านี่แหละเป็นการพักผ่อนแบบครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นโมเมนต์นอนชิลแบบสบาย ๆ เอนกายอาบแดดจิบค็อกเทลแบบสวย ๆ ใจกลางมหาสมุทร หรือกิจกรรมชวนตื่นเต้นแบบจัดเต็ม ที่มากับเพื่อนยิ่งสนุกแบบ x2 ถ้าใครมีเวลาเยอะหน่อยก็จองตั๋วเผื่อวันไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ต่อ ช้อปปิ้งก่อนกลับขึ้นเครื่อง บอกเลยว่าคุ้มในราคาเข้าถึงได้ เที่ยวช่วงไหนก็ดีงาม
สามารถติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ในราคาสุดพิเศษ สำหรับเส้นทางเซี่ยงไฮ้-โอกินาว่า เริ่มต้นเพียง 23,500 บาท ที่ Phoenix Vacation Group หรือโทร 080-354-9249 และ Line : @pvg1 (ราคานี้พิเศษเฉพาะของในช่วง 30 July 2025 เท่านั้นนะ รีบจองไว้ก่อนเลย)
The Ultimate Cruising Escape ชวนล่องเรือสำราญข้ามมหาสมุทร
ส่วนใครตามหาแพลนเที่ยวเซี่ยงไฮ้ และโอกินาว่า ก็กดอ่านแพลนเที่ยวสนุก ๆ แบบจัดเต็มได้ที่ www.wheredowego.in.th/other/wondering-shanghai-in-style และ www.wheredowego.in.th/travel/perfect-guide-to-okinawa
